จอห์น เทอร์รี่ อดีตกองหลังกัปตันทีมเชลซี มีชื่อเต็มว่า จอห์น จอร์จ เทร์รี่ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1980 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยในวัยเด็กของเขาเติบโตมาด้วยวัฒนธรรมในด้านลูกหนังตามแบบฉบับของเด็กชาวอังกฤษโดยแท้ และเขามีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นที่ในดวงใจเช่นเดียวกับครอบครัวของเขา โดยในวัยเด็ก เทอร์รี่เรียนรู้สไตล์การเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วนำมาปรับใช้กับสไตล์การเล่นของตัวเอง
จุดเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลของเขาเกิดขึ้นที่ เซนรัป ทีมฟุตบอลในท้องถิ่นที่เล่นอยู่ในซันเดย์ ลีก โดยเขาเริ่มเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์มาก่อน
ในปี 1991 เมื่อเขามีอายุ 11 ขวบ เขาก็ได้รับการทาบทามให้เขาเข้าij;,ทีมเยาวชนของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เทอร์รี่ในตอนนั้น มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เขาเป็นเด็กที่มีภาวการณ์เป็นผู้นำสูง เขาทำการฝึกฝนทักษะและพัฒนาฝีเท้าของเขาตัวเองจนเหนือกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน และเทอร์รี่ ก็กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ไม่รับความสนใจจากทีมฟุตบอลทั่วยุโรปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนใจเขาและทาบทามเขาเพื่อเข้าร่วมฝึกซ้อมกับทีมในช่วงปิดเทอม และเขาก็ตอบรับคำเชิญนั้นในทันที เขาทำการฝึกซ้อมกับอคาเดมี่อยู่ราว 2 สัปดาห์ ซึ่งในตอนนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความต้องการตัวเขาเข้าร่วมทีมเป็นอย่างมาก และก็ยังมีเชลซี ที่ยื่นข้อเสนอมาให้กับ เทอร์รี่ เขามาในเวลานั้นด้วย และเพียงครั้งแรกที่เขาได้ไปทดสอบฝีเท้าที่เชลซี ก็ทำให้ เทอร์รี่ รู้สึกหลงรักสโมสรแห่งนี้เข้าอย่างจัง ท่ามกลางเสียงคัดค้านของครอบครัว แต่เขาก็ตัดสินใจร่วมทีมกับเชลซี
ในปี 1995 เทอร์รี่ในวัย 15 ปี ตกลงเซ็นสัญญาร่วมทีมเยาวชนกับเชลซี และการเข้าร่วมทีมของเขาเพียงไม่นาน เทอร์รี่ก็มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการเล่น เนื่องจากในเวลานั้นทีมเยาวชนของเชลซีขาดแคลนผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังเป็นอย่างมาก และนั่นเองที่ทำให้ เทอร์รี่ ค้นพบตำแหน่งที่เหมาะสมกับเขา และก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นสุดยอดกองหลังของเขามาจนถึงทุกวันนี้
ในปี 1998 เทอร์รี่ ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของเชลซีในวัย 17 ปี และเขาก็ได้ทำการฝึกซ้อมกับรุ่นพี่ในทีมชุดใหญ่ ในเดือนตุลาคม 1998 เขาลงสนามเป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับแอสตัน วิลลา โดยลงสนามเป็นตัวสำรอง แต่ด้วยในเวลานั้นเชลซี มีกองหลังระดับทีมชาติอยู่แล้ว ทำให้เป็นการยากสำหรับนักเตะดาวรุ่งของเขาที่จะสอดแทรกหาโอกาสในการลงสนามได้
ในปี 1999 เขาถูกย้ายไปร่วมทีมกับนอตติง แฮมฟอเรสต์ เพื่อให้เขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการลงสนาม และเขาก็สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เขากลายเป็นคนสำคัญของทีมไปในทันที ถึงแม้ว่าเป็นเวลาเพียงสั้นๆในการไปร่วมทีม แต่เทอร์รี่ ก็ได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลเป็นอย่างมาก
หลังจากหมดสัญญายืมตัว ในปี 2000 เทอร์รี่ กลับมาเล่นให้กับเชลซีอีกครั้ง แต่เขาก็ยังต้องเล่นกับทีมสำรอง แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม เทอร์รี่ก็ได้รับโอกาสในการลงสนามที่มากขึ้น และทำให้เขาพัฒนาฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม
ในฤดูกาล 2001-2002 เทอร์รี่ เริ่มได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมในบางนัด เขาเป็นส่วนสำคัญพาทีมเข้าถึงรอบชิงเอฟเอ คัพ
ในปี 2004 เขาถูกเรียกให้ไปเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ ในชุดลุยศึกยูโร 2004 ซึ่งเป็นการเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกของเขา ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่เทอร์รี่ก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับทีมชาติอังกฤษ
ในปี 2005 เชลซี เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่หลังจาก โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเป็นเจ้าของใหม่ของเชลซี และเป็นปีที่เชลซีดึงตัวนักเตะระดับโลกเข้าร่วมอย่างหนาแน่น และในฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรกของเทอร์รี่ ที่รับหน้าที่กัปตันทีมอย่างเต็มตัว ในฤดูกาลต้นฤดูกาลเชลซีทำผลงานได้มีดีนัก ทำให้ในช่วงกลางฤดูกาลเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้งคือการเข้ามาคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ และมีการเปลี่ยนแปลงนักเตะครั้งใหญ่ มีการขายนักเตะออกจากทีมและดึงตัวนักเตะเข้ามาอย่างมากมายอีกครั้ง แต่ เทอร์รี่ ก็ยังคงรับหน้าที่กัปตันทีมต่อไป
ในฤดูกาล 2004-2005 เชลซี กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง สามารถสร้างผลงานได้อย่างร้อนแรง คว้าแชมป์ลีกได้แบบม้วนเดียวจบ และสร้างสถิติต่างๆ มากมาย และยังสามารถคว้าแชมป์ลีกคัพมาได้อีกด้วย เทอร์รี่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอมาได้ เรียกได้ว่าในฤดูกาลนี้เป็นปีทองของเทอร์รี่อย่างแท้จริง เขากลายเป็นนักเตะในตำแหน่งกองหลังที่มีชื่อในระดับโลก
ฤดูกาล 2005-2006 เชลซีสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาได้อีก 1 สมัย เทอร์รี่ยังคงสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และในปีนี้เขาในเล่นในฟุตบอลโลก 2006 แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดิม แต่หลังจากนั้น เทอร์รี่ ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติอังกฤษต่อจาก เดวิด เบ็คแฮม
ในฤดูกาล 2006-2007 เทอร์รี่ ได้เปลี่ยนแปลงบทบาทของตัวเองในหลายๆ อย่าง รวมถึงการเป็นผู้รักษาประตูในเกมที่พบกับเรดดิ้ง ในช่วงท้ายเกมเนื่องจาก 2 ผู้รักษาประตูของเชลซีได้รับบาดเจ็บ และในช่วงกลางฤดูกาลนั้น เทอร์รี่ ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเข้ามารบกวนอยู่หลายครั้ง จนต้องได้รับการผ่าตัดและต้องรักษาตัวในระยะหนึ่ง เชลซีในเวลาที่ไม่มีเทอร์รี่ ทำให้พลาดโอกาสในการคว้าแชมป์ลีก แต่หลังจากที่เทอร์รี่กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง เขาก็กลับมากู้สถานการณ์ของเชลซี
เรียกได้ว่าในตลอดระยะเวลาหลายฤดูกาลที่เทอร์รี่เล่นให้กับเชลซี เทอร์รี่เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้เชลซีประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 เทอร์รี่ โดนสั่งปลดจากตำแหน่งกัปตันทีมชาติอังกฤษ เนื่องจากข่าวฉาวเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับภรรยาของเพื่อนร่วมทีมชาติ ในปี 2012 เขารับใช้ชาติอีกครั้งในศึกฟุตบอลยูโร และนั้นเป็นการลงสนามในนามทีมชาติเป็นครั้งสุดท้ายของเขา หลังจากนั้นไม่นาน เทอร์รี่ในวัย 32 ปี ประกาศหยุดเล่นให้กับทีมชาติอย่างเป็นทางการ
ในฤดูกาล2012-2013 เทอร์รี่ ได้รับบาดเจ็บและต้องพักรักษาตัวยาว เชลซี ต้องพบกับสภาพผลงานอันย่ำแย่ และมีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอีกครั้ง หลังจากที่เทอร์รี่หายบาดเจ็บกลับมาเขาก็กลับมาในด้วยการเป็นตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่
ในฤดูกาล2013-2014 มูรินโญ่ กลับมาคุมทีมเชลซีอีกครั้ง เทอร์รี่ได้รับโอกาสในการลงสนามอีกครั้ง ในฤดูกาล2016-2017 การเข้ามาของ คอนเต้ ผู้จัดการทีมคนใหม่ เทอร์รี่ ถูกลดบทบาทลงด้วยวัยของเขาที่ในตอนนั้นมีอายุ 36 ปี เชลซี ไม่ต่อสัญญากับเขาอีกต่อไป เขาลงสนามนัดสุดท้ายให้กับเชลซีในนัดที่พบกับซันเดอร์แลนด์
ในฤดูกาล 2017-2018 เขาย้ายไปร่วมทีมกับแอสตัน วิลลา แต่เขาก็ไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้ เขาเล่นให้แอสตัน วิลลา อยู่ 1 ฤดูกาล และหลังจากนั้นเขาก็เป็นนักเตะไร้สังกัดมาอยู่ระยะหนึ่ง จนในเดือนตุลาคม 2018 เทอร์รี่ในวัย 37 ปี ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ และหลังจากนั้นเขาก็ผันตัวมาทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมให้กับแอสตัน วิลลา